Connect with us

ธุรกิจ

DKSH ชี้ ภาคธุรกิจไทยต้องเร่งปรับตัวรับมือวิกฤตสภาพภูมิอากาศ

Published

on

ความยั่งยืนทางธุรกิจ

มาเธียส เกรเกอร์ กรรมการผู้จัดการ หน่วยธุรกิจวัตถุดิบอุตสาหกรรม บริษัท DKSH (ประเทศไทย) กล่าวถึงความมุ่งมั่นของประเทศไทยในการรับมือกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศ ผ่านนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมที่กำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะแผนการนำภาษีคาร์บอนมาใช้ในปี 2568 ซึ่งสะท้อนถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

อย่างไรก็ตาม ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เช่น ดัชนีความร้อนที่พุ่งสูง และระดับฝุ่น PM 2.5 เป็นความเสี่ยงทางธุรกิจที่สำคัญ โดยผลการวิจัยของ Morgan Stanley ระบุว่า 92% ของบริษัทเอกชนคาดการณ์ว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะส่งผลกระทบต่อโมเดลธุรกิจภายในปี 2593 ซึ่งหากไม่มีการดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ธนาคารโลกประเมินว่าประเทศไทยอาจสูญเสีย GDP สูงถึง 553 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2593

DKSH มองว่า การผนวกความยั่งยืนเข้าเป็นส่วนสำคัญของยุทธศาสตร์องค์กร จะช่วยให้ธุรกิจมีความยืดหยุ่น ลดความเสี่ยง และเติบโตได้อย่างมั่นคงในระยะยาว โดยต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในองค์กร รวมถึงการให้ความสำคัญกับบุคลากร ซึ่งเป็นพลังขับเคลื่อนให้องค์กรประสบความสำเร็จในทุกด้าน

DKSH ได้เริ่มดำเนินการด้านความยั่งยืนอย่างจริงจัง เช่น การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ที่ศูนย์กระจายสินค้าหลักทั้ง 4 แห่ง และการนำรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้ในการขนส่งสินค้า ซึ่งช่วยลดการปล่อยคาร์บอนได้ถึง 45,000 ตันต่อปี และประหยัดค่าพลังงานได้ 5.4 ล้านบาทต่อปี นอกจากนี้ ยังมีโครงการช่วยเหลือทางสังคม เช่น ความร่วมมือกับ Right To Play ในการช่วยเหลือเด็กกว่า 35,000 คน และการให้ความช่วยเหลือเด็กและครอบครัวในแคมป์ก่อสร้างผ่านมูลนิธิเครือข่ายพัฒนาบ้านเด็ก

Advertisement

DKSH เชื่อมั่นว่า การสร้างความยั่งยืนเป็นหนทางอันยาวไกลที่ต้องอาศัยความร่วมมืออย่างจริงจังจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะการตระหนักถึงบทบาทสำคัญของภาคธุรกิจ และการเร่งสร้างความร่วมมือเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาประเทศไทยสู่อนาคตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม