Connect with us

ข่าว

ttb analytics ชี้ นโยบายการค้า Trump 2.0 เร่งโลกสู่ยุคกีดกันทางการค้า กระทบส่งออกไทยระยะยาว

Published

on

ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) ประกาศกำไรสุทธิ 5,112 ล้านบาท ในไตรมาส 4 ปี 2567 รวม 12 เดือน กำไร 21,031 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าสู่ปี 2568 มุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน

สำนักข่าวบริคอินโฟ – ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี หรือ ttb analytics มองว่านโยบายภาษีของทรัมป์ (Trump 2.0) กำลังเร่งให้พลวัตการค้าโลกหวนกลับสู่ “ยุคของการกีดกันทางการค้า” หรือ Protectionism ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อประเทศไทยในฐานะประเทศเศรษฐกิจแบบเปิดขนาดเล็ก โดยผลกระทบจากการปรับเปลี่ยนนโยบายการค้าของสหรัฐฯ จะส่งผ่านมายังภาคส่งออกของไทยทั้งทางตรงและทางอ้อม

หลังจากการตอบโต้มาตรการขึ้นภาษีนำเข้าครั้งใหญ่ของสหรัฐฯ ในปี พ.ศ. 2473 (ค.ศ. 1930) โลกได้เปลี่ยนผ่านจากยุคกีดกันทางการค้าสู่ยุคโลกาภิวัตน์ อย่างไรก็ตาม ในปี พ.ศ. 2568 “สงครามการค้าและนโยบายภาษีของสหรัฐฯ” กลายเป็นตัวเร่งสำคัญที่ทำให้โลกปรับเปลี่ยนระบบการค้าเชิงพลวัตครั้งใหญ่ จนอาจกลับไปสู่ยุคกีดกันทางการค้าอีกครั้ง

แม้ล่าสุดทรัมป์จะประกาศเลื่อนการเก็บภาษีต่างตอบแทนออกไปชั่วคราว และจัดเก็บอัตราภาษีนำเข้าแบบถ้วนหน้าที่ระดับ 10% (ยกเว้นจีน 145%) แต่ ttb analytics ประเมินว่า อัตราภาษีนำเข้าที่สหรัฐฯ จะเรียกเก็บในยุคของทรัมป์อาจไม่สามารถกลับไปที่ระดับเดิมในปี พ.ศ. 2567 ได้ การยกระดับนโยบายกีดกันทางการค้าภายใต้ Trump 2.0 จะยิ่งทำให้ภูมิทัศน์การค้าโลกตึงเครียดขึ้น และส่งผลให้ภาคส่งออกไทยมีแนวโน้มลดลงในระยะยาว

ttb analytics ประเมินว่า หากสหรัฐฯ ใช้การจัดเก็บภาษีนำเข้าในอัตรา Universal Tariff 10% และ Sectoral Tariff 25% อาจไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยอย่างมีนัย แต่ในกรณีเลวร้ายที่สุด หากไทยไม่สามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้ากับสหรัฐฯ ได้ และถูกจัดเก็บอัตราภาษีนำเข้า Reciprocal Tariff ที่ระดับ 36% จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยสูงถึง 1.1% ของ GDP ภายใน 1 ปี เนื่องจากไทยเป็นประเทศระบบเปิดขนาดเล็ก และสหรัฐฯ เป็นตลาดส่งออกอันดับ 1 ของไทย

ผลกระทบทางตรงจะเกิดขึ้นกับกลุ่มอุตสาหกรรมที่พึ่งพาตลาดสหรัฐฯ สูง เช่น คอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ อุปกรณ์เครือข่ายและการสื่อสาร และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ รวมถึงกลุ่มอุตสาหกรรมที่พึ่งพาตลาดสหรัฐฯ สูงขึ้นอย่างมีนัย เช่น แผงโซลาร์ เครื่องซักผ้า เหล็ก และอะลูมิเนียม ส่วนผลกระทบทางอ้อมจะเกิดขึ้นกับกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอตัว เช่น เฟอร์นิเจอร์ ของใช้ในบ้าน สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม อัญมณีและเครื่องประดับ รวมถึงกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจจีนชะลอตัว และกลุ่มอุตสาหกรรมที่พึ่งพาตลาดอาเซียนสูง

Advertisement

โดยสรุป นโยบายการค้า Trump 2.0 กำลังกลายเป็นดาบสองคมต่อทั่วโลก และอาจนำมาซึ่งการโดดเดี่ยวของสหรัฐฯ แม้มาตรการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ จะถูกเลื่อนออกไปชั่วคราว แต่คาดว่าจะเพิ่มความไม่แน่นอนทางการค้าและตลาดการเงินโลกในระยะข้างหน้า ผู้ประกอบการไทยต้องเร่งรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของห่วงโซ่อุปทานโลก ต้นทุนที่เพิ่มขึ้น และยกระดับศักยภาพในการแข่งขัน