ข่าว
อว. ผนึก สธ. ใช้ DDC-Care ช่วยเฝ้าระวังโรคเมอร์ส จากผู้เดินทางร่วมพิธีฮัจญ์

สำนักข่าวบริคอินโฟ – กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมกับกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เตรียมพร้อมรับมือโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง หรือโรคเมอร์ส (MERS-CoV) ในกลุ่มผู้แสวงบุญชาวไทยที่จะเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ ด้วยการนำระบบ DDC-Care Platform เทคโนโลยีเฝ้าระวังโรคระบาดข้ามพรมแดนมาใช้ ซึ่งเป็นความร่วมมือที่ต่อยอดจากการนำระบบดังกล่าวมาใช้คัดกรองโรคโควิด-19 ในช่วงที่มีการระบาดในประเทศไทย
นายศุภชัย ใจสมุทร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวง อว. กล่าวในการแถลงข่าวว่า การเตรียมความพร้อมและนำระบบ DDC-Care Platform มาใช้ จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการดูแลสุขภาพและเฝ้าระวังโรคระบาดในประเทศไทย รวมถึงดูแลสุขภาพของผู้แสวงบุญชาวไทยที่เดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ให้มีความปลอดภัย โดยระบบนี้เป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาโดยนักวิจัยไทย และเป็นเครื่องมือสำคัญในการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับวงการสาธารณสุขไทย
ศาสตราจารย์ ดร.ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผู้อำนวยการ สวทช. กล่าวว่า ระบบ DDC-Care พัฒนาขึ้นเพื่อเป็นระบบติดตามผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคติดเชื้อโควิด-19 ตั้งแต่เริ่มมีการระบาดในประเทศไทย และสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการป้องกันและเฝ้าระวังโรคอุบัติซ้ำ หรือโรคติดต่ออันตรายอื่น ๆ ได้ ซึ่งกรมควบคุมโรคได้นำระบบนี้ไปใช้เฝ้าระวังความเสี่ยงโรคเมอร์สในกลุ่มผู้แสวงบุญชาวไทยที่เดินทางไปประกอบพิธีทางศาสนาในตะวันออกกลางตั้งแต่ปี 2566 จนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ สวทช. ยังได้ต่อยอดพัฒนาระบบวัคซีนพาสปอร์ต INTERVAC เป็น INTERVAC HAJJ สำหรับการออกใบรับรองการฉีดวัคซีน 4 ชนิด ให้กับผู้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์ ตั้งแต่ปี 2565 เพื่ออำนวยความสะดวกแก่เจ้าหน้าที่และประชาชน
ด้านนายแพทย์ดิเรก ขำแป้น รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กรมควบคุมโรคมีมาตรการให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขลงพื้นที่เยี่ยมผู้ที่เดินทางกลับจากพิธีฮัจญ์ และแนะนำให้ใช้แอปพลิเคชัน DDC-Care ในการรายงานสุขภาพอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 14 วัน เพื่อเฝ้าระวังผู้ที่มีความเสี่ยงโรคเมอร์สและให้ความช่วยเหลือได้ทันที ซึ่งที่ผ่านมา กรมควบคุมโรคได้นำระบบ DDC-Care ไปใช้เฝ้าระวังใน 7 จังหวัดภาคใต้ เพื่อบริการแก่กลุ่มผู้แสวงบุญ