การเมือง
สีจิ้นผิงเตือน สงครามภาษีไม่มีผู้ชนะ ชี้สวนกระแสโลกนำไปสู่ความโดดเดี่ยว หลัง จีน-สหรัฐฯ ขึ้นภาษีใส่กันอย่างดุเดือด
สำนักข่าวซินหัว พันธมิตรของสำนักข่าวบริคอินโฟ รายงานว่า ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงแห่งประเทศจีน ได้ออกมาเตือนถึงผลกระทบของสงครามภาษีศุลกากร โดยเน้นย้ำว่าไม่มีฝ่ายใดที่จะได้รับชัยชนะจากสงครามดังกล่าว และการที่ประเทศใดประเทศหนึ่งเลือกที่จะสวนกระแสโลกาภิวัตน์นั้น จะนำไปสู่การแยกตัวออกจากประชาคมโลกในที่สุด คำกล่าวนี้เกิดขึ้นระหว่างการหารือกับเปโดร ซานเชซ นายกรัฐมนตรีสเปน ณ กรุงปักกิ่ง
สีจิ้นผิงกล่าวว่าตลอดระยะเวลา 70 ปีที่ผ่านมา จีนได้พัฒนาประเทศด้วยการพึ่งพาตนเองและความพยายามอย่างหนัก ไม่เคยพึ่งพาความช่วยเหลือจากผู้อื่น และไม่เกรงกลัวต่อการกดขี่ใด ๆ ทั้งสิ้น จีนจะยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาประเทศของตนเองต่อไป ไม่ว่าสถานการณ์โลกภายนอกจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร
จีนและสหภาพยุโรป (EU) มีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่ใกล้ชิดและพึ่งพาซึ่งกันและกัน โดยมีผลผลิตทางเศรษฐกิจรวมกันมากกว่าหนึ่งในสามของผลผลิตทั้งหมดทั่วโลก สีจิ้นผิงเสนอว่าทั้งสองฝ่ายควรร่วมกันแสดงความรับผิดชอบในระดับสากล และทำงานร่วมกันเพื่อปกป้องโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจและระบบการค้าระหว่างประเทศ รวมถึงต่อต้านการกระทำที่กดขี่และเห็นแก่ประโยชน์ฝ่ายเดียว
“นี่ไม่เพียงแต่เป็นการปกป้องสิทธิและผลประโยชน์อันชอบธรรมตามกฎหมายของจีนและสหภาพยุโรปเท่านั้น แต่ยังเป็นการรักษาความเป็นธรรมและความยุติธรรมในประชาคมระหว่างประเทศ พร้อมกับยึดมั่นในกฎเกณฑ์และระเบียบระหว่างประเทศด้วย” สีจิ้นผิงกล่าว
ด้านเปโดร ซานเชซ นายกรัฐมนตรีสเปน กล่าวว่าจีนเป็นหุ้นส่วนสำคัญของสหภาพยุโรปและสเปนสนับสนุนการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหภาพยุโรปอย่างต่อเนื่อง สหภาพยุโรปมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการค้าที่เปิดกว้างและเสรี สนับสนุนระบบพหุภาคี และคัดค้านการขึ้นภาษีศุลกากรเพียงฝ่ายเดียว เขายังเน้นย้ำว่าไม่มีผู้ชนะในสงครามการค้า
“ท่ามกลางสถานการณ์ระหว่างประเทศที่ซับซ้อนและท้าทาย สเปนและสหภาพยุโรปยินดีที่จะเสริมสร้างการติดต่อสื่อสารและประสานงานกับจีน เพื่อรักษาระเบียบการค้าระหว่างประเทศ รับมือกับความท้าทายต่างๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและความยากจน ตลอดจนคุ้มครองผลประโยชน์ร่วมของประชาคมระหว่างประเทศ” ซานเชซกล่าว
ภาพปกข่าว – แฟ้มภาพซินหัว : สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน พบปะกับเปโดร ซานเชซ นายกรัฐมนตรีสเปน ณ เรือนรับรองเตี้ยวอวี๋ไถ กรุงปักกิ่งของจีน วันที่ 11 เม.ย. 2025
