ข่าว
ชัชชาติ เผยฝุ่น PM2.5 กทม. ดีขึ้นต้นสัปดาห์นี้ พร้อมสรุป 11 มาตรการฝุ่น และเสนอเพิ่มอำนาจ กทม. แก้ปัญหา
กทม., 26 ม.ค. 68 สำนักข่าวบริคอินโฟ – นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แถลงสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ ณ ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร โดยระบุว่าสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ในช่วงต้นสัปดาห์นี้มีแนวโน้มดีขึ้น เนื่องจากอากาศเริ่มถ่ายเทได้สะดวก พร้อมกันนี้ยังได้สรุปมาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ที่กรุงเทพมหานครได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลเพื่อเพิ่มอำนาจหน้าที่ให้กรุงเทพมหานครสามารถจัดการปัญหาฝุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
นายชัชชาติ กล่าวว่า สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ใน กทม. ดีขึ้นเพราะอากาศเริ่มถ่ายเท สภาพที่เห็นเช้าวันนี้ไม่ใช่ฝุ่น 100% แต่เป็นละอองน้ำจากความชื้นสัมพัทธ์ โดยคาดการณ์ว่าอัตราการระบายอากาศในวันที่ 27-29 ม.ค. จะดีขึ้นมาก แม้วันที่ 30 ม.ค. จะต่ำลงอีกครั้ง อย่างไรก็ตามในภาพรวมของประเทศไทยยังน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะภาคกลางและภาคอีสานที่มีจุดสีแดงเพิ่มขึ้น ซึ่งเชื่อว่ามาจากการเผาไหม้
ผู้ว่าฯ กทม. ย้ำว่า กรุงเทพมหานครให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 มาโดยตลอด โดยได้ดำเนินการตาม 11 มาตรการ ได้แก่ 1. Low Emission Zone (LEZ) เขตมลพิษต่ำ 2. โครงการรถคันนี้ลดฝุ่น 3. ห้องเรียนปลอดฝุ่น 4. เครือข่าย Work From Home (WFH) 5. รถอัดฟางให้ยืมฟรี 6. สนับสนุนทีมฝนหลวง 7. เปิดช่องทางร้องเรียนแจ้งเตือนฝุ่น 8. การพยากรณ์ฝุ่น 9. การตรวจฝุ่นที่ต้นตอ 10. การปรับปรุงการจราจร และ 11. เพิ่มพื้นที่สีเขียว
“มาตรการ Low Emission Zone ถือเป็นการใช้กฎหมายเท่าที่อำนาจเรามี เสาะหาวิถีทางควบคุมฝุ่น PM2.5 นอกจากบังคับใช้ ยังสร้างแรงจูงใจให้ปฏิบัติไปพร้อมกัน” นายชัชชาติ กล่าว
นอกจากนี้ ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ยังได้เสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ให้กับรัฐบาล เช่น การเก็บภาษีสิ่งแวดล้อมตามหลัก PPP (ผู้ก่อมลพิษเป็นผู้จ่าย) , การลดค่าความทึบแสงของการตรวจรถยนต์ควันดำ , เพิ่มความเข้มข้นของมาตรการการจัดการกับรถควันดำ , ขอให้ กทม. เป็นเจ้าพนักงานภายใต้ พ.ร.บ.ขนส่งทางบก เพื่อมีอำนาจในการตรวจรถ 6 ล้อขึ้นไป เป็นต้น ซึ่งข้อเสนอเหล่านี้จะช่วยให้กรุงเทพมหานครมีอำนาจในการจัดการปัญหาฝุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
นายชัชชาติ กล่าวทิ้งท้ายว่า ที่ผ่านมา กทม. ทำงานเรื่องฝุ่น PM2.5 มาโดยตลอด แต่บางเรื่องยังไม่มีอำนาจในการดำเนินการ จึงอยากขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการแก้ไขปัญหานี้ร่วมกัน
