ข่าว
ทรู คอร์ปอเรชั่น เปิดบ้านสาธิตระบบเตือนภัยฉุกเฉิน Cell Broadcast Service พร้อมต้อนรับคณะกรรมาธิการการสื่อสารฯ สภาผู้แทนราษฎรร่วมทดสอบในพื้นที่จริง
บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านโทรคมนาคมและเทคโนโลยีชั้นนำอันดับ 1 ของไทย จัดการสาธิตเสมือนจริง “LIVE – Cell Broadcast Service” และสร้างความเชื่อมั่นในการเตรียมพร้อมให้บริการแก่คณะกรรมาธิการการสื่อสาร โทรคมนาคม และดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สภาผู้แทนราษฎร และให้การต้อนรับนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล รองประธานคณะกรรมาธิการฯ พร้อมคณะอนุกรรมาธิการ เข้าเยี่ยมชมและร่วมทดสอบระบบแจ้งเตือนภัยฉุกเฉินที่จะเปิดให้บริการในประเทศไทยเป็นครั้งแรก และนำชมศูนย์ปฏิบัติการเครือข่ายอัจฉริยะ Business and Network Intelligence Center (BNIC) ที่ใช้บริหารจัดการเมื่อเกิดภัยพิบัติ
- อ่าน : ไทยเริ่มแล้ว! LIVE – Cell Broadcast Service แจ้งเตือนภัยฉุกเฉิน 5 ภาษา True-dtac เริ่มทดลองแล้ว!
นายจักรกฤษณ์ อุไรรัตน์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านกิจการองค์กร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ทรู คอร์ปอเรชั่นได้แสดงความพร้อมอีกขั้นในการเตรียมระบบ Cell Broadcast Service (CBS) เพื่อเปิดให้บริการในไทย และเปิดสาธิตเสมือนจริงแก่คณะกรรมาธิการการสื่อสารฯ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อสร้างความมั่นใจในมาตรฐานของ CBS ที่เราพร้อมร่วมมือกับทุกฝ่ายให้ใช้งานได้ในไทย โดยระบบนี้สามารถแจ้งเตือนภัยฉุกเฉินประสิทธิภาพสูงตามมาตรฐานสากล ส่งข้อความเตือนภัยไปยังโทรศัพท์มือถือของผู้ใช้บริการทุกเครื่องในพื้นที่เสี่ยงภัยได้พร้อมกันทันที ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนล่วงหน้า โดยได้พัฒนาระบบให้มีจุดเด่นสำคัญ คือ รองรับการแสดงผลได้ถึง 5 ภาษา ได้แก่ ไทย อังกฤษ จีน ญี่ปุ่น และรัสเซีย หรืออื่นๆ นอกจากนี้ยังมีทั้งการแจ้งเตือนด้วยสัญญาณเสียงและข้อความแบบ Pop up บนหน้าจอ พร้อมฟีเจอร์ Text to Speech ที่อำนวยความสะดวกแก่ผู้บกพร่องทางการมองเห็น ซึ่งจะช่วยให้การแจ้งเตือนภัยครอบคลุมประชาชนทุกกลุ่มอย่างทั่วถึง”
นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล รองประธานคณะกรรมาธิการการสื่อสาร โทรคมนาคม และดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า “คณะกรรมาธิการการสื่อสารฯ ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยี Cell Broadcast เป็นอย่างมาก เนื่องจากเหตุการณ์ไม่คาดคิดต่างๆ ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์กราดยิงที่ห้างสรรพสินค้าหรือภัยพิบัติน้ำท่วม ล้วนส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน การมีระบบเตือนภัยที่มีประสิทธิภาพจะช่วยลดความสูญเสียได้อย่างมาก ซึ่งประเทศไทยได้เรียนรู้จากประสบการณ์ของหลายประเทศที่ใช้ระบบนี้อยู่แล้ว เช่น สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ เนเธอร์แลนด์ อินเดีย และมาเลเซีย โดยคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ในปีหน้า”
ระบบ CBS ที่ทรู คอร์ปอเรชั่นพัฒนาขึ้นมีจุดเด่นสำคัญ 5 ประการ ได้แก่
- รองรับทุกภาษา – สามารถออกแบบการแจ้งเตือนได้ทุกภาษาและส่งพร้อมกันได้ทันที
- รวดเร็ว – สามารถส่งข้อความเตือนภัยได้ทันทีที่เกิดเหตุ
- แม่นยำ – สามารถกำหนดพื้นที่เป้าหมายในการส่งข้อความได้อย่างแม่นยำ
- ครอบคลุม – ส่งข้อความถึงผู้ใช้บริการทุกคนในพื้นที่เสี่ยงภัยโดยไม่ต้องลงทะเบียน
- มั่นใจ – เป็นระบบที่ได้รับการยอมรับและใช้งานในหลายประเทศทั่วโลก
การพัฒนาระบบ CBS เป็นความร่วมมือระหว่างทรู คอร์ปอเรชั่น กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงาน กสทช. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และกรมอุตุนิยมวิทยา โดยมีศูนย์ปฏิบัติการเครือข่ายอัจฉริยะ BNIC (BNIC) พร้อมปัญญาประดิษฐ์ (AI) เป็นศูนย์กลางในการบริหารจัดการกรณีเกิดภัยพิบัติตลอด 24 ชั่วโมง
นอกจากนี้ ทรู คอร์ปอเรชั่นยังได้นำคณะกรรมาธิการการสื่อสารฯ ชมศูนย์ปฏิบัติการเครือข่ายอัจฉริยะ Business and Network Intelligence Center (BNIC) ที่ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยศูนย์นี้ใช้เป็นห้อง War room ในการบริหารจัดการเมื่อเกิดภัยพิบัติ เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าทรูและดีแทค ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการทำงานของระบบ CBS ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
การจัดทดสอบเสมือนจริงครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญอีกครั้งในการยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยและการเตือนภัยของประเทศไทย ที่จะช่วยลดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทยและนักท่องเที่ยวได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการได้ในปี 2568