บทสัมภาษณ์ศิลปินไอดอล
พูดคุย “น้องเอเชีย” สมาชิกวง The Glass Girls นักศึกษาแพทย์อายุน้อย
พูดคุย “เอเชีย” สมาชิกวง The Glass Girls และนักศึกษาแพทย์อายุน้อยที่สุด

เพื่อเป็นการต้อนรับวันเด็กแห่งชาติที่กำลังจะมาถึง วันนี้ทีมงาน Brickinfo ขอแนะนำให้รุ้จักอีกหนึ่งเยาวชนคนเก่งสาวน้อยอายุ 17 เด็กกิจกรรมและไม่ทิ้งฝัน ที่พาตัวเองเข้าไปเรียนคณะแพทย์ตั้งแต่อายุ 15 ปี และมาเป็นศิลปินไอดอลที่ตัวเองชื่นชอบ “น้องเอเชีย-ภิรญา ภัทรธีรานนท์” สมาชิกจากวงไอดอล The Glass Girls สังกัด KNW Entertainment ปัจจุบันเป็นนักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 2 วิทยาลัยแพทยศาสตร์นานาชาติจุฬาภรณ์ สาขาแพทยศาสตร์ น้องเอเชียมีการแบ่งเวลาอย่างไร และพาตัวเองมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร ? เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับ เอเชีย พร้อมๆกันค่ะ

สวัสดีค่ะ ชื่อภิรญา ภัทรธีรานนท์ ชื่อเล่น เอเชีย สมาชิกวง The Glass Girls ค่ะ ตอนนี้เรียนอยู่ที่วิทยาลัยแพทยศาสตร์นานาชาติจุฬาภรณ์ สาขาแพทยศาสตร์ ปี 2 อายุ 17 ปีค่ะ
จุดเริ่มต้นที่สนใจของการมาเรียน แพทย์ เริ่มต้นคือเอเชียมีความสนใจและความชอบส่วนตัวอยู่แล้ว หนูชอบเรียนรู้ร่างกายมนุษย์ค่ะ หนูว่ามันเป็นอะไรที่น่าสนใจมากๆ ต้องย้อนกลับไปตั้งแต่ตอนเด็กประมาณ 4 ขวบ ตอนนั้นพาคุณยายไปโรงพยาบาลแล้วเห็นพวกรูปภาพที่เป็นเส้นเลือด เส้นประสาทร่างกายคน หนูก็ไปยืนดูแล้วรู้สึกว่ามันน่าสนใจดี ทั้งๆที่ตอนนั้นก็ไม่รู้เรื่องหรอกค่ะ แล้วก็ได้รับการชี้แนะจากคุณแม่ เหมือนดูแววให้ค่ะ ว่าถ้าสนใจเรื่องพวกนี้ ก็น่าจะเรียนหมอ จากนั้นก็มุ่งมาทางนี้เลยค่ะ
พอสอบเทียบมหาวิทยาลัยติดแล้ว ก่อนเข้าหนูก็คิดไว้แล้วค่ะ ว่าถ้าเข้ามาแล้ว มันคือการก้าวไปอีกขั้นแล้วนะ เราเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว เราต้องมีวุฒิภาวะให้มากขึ้น ก็เป็นเรื่องที่หนูต้องปรับนิกหน่อยค่ะ แต่หนูก็โชคดีที่ได้เพื่อนที่ดี และเข้าใจหนูด้วยค่ะ ส่วนเนื้อหาหนูว่าความยากของมันคือเนื้อหามันเยอะอะค่ะ พอได้มาเรียนจริงๆจึงได้รู้ว่าร่างกายเรามันมีอะไรเยอะแยะ มากมาย และซับซ้อนมากๆด้วยค่ะ ซึ่งส่วนตัวยอมรับว่ายากมากๆค่ะ ถ้าเทียบกับเพื่อนรุ่นเดียวกันก็คงนับว่าเกินวัย แต่สำหรับหนูก็ไม่ได้รู้สึกว่าเกินวัยขนาดนั้นค่ะ ส่วนที่หลายๆคนเคยบอกว่าเรียนเร็วไปจะดีเหรอ หนูรู้สึกว่าตรงนี้ ตอนนี้หนูก็แฮปปี้มากๆแล้วค่ะ ถึงมันก็จะมีประสบการณ์ที่ขาดไปบ้างเช่น งานพรอม งานจบ ม.6 และอื่นๆ ก็มีบ้างที่รู้สึกเสียดาย แต่หนูยังติดต่อกับเพื่อนที่โรงเรียนอยู่ค่ะ คุยกันบ้าง นัดเจอกันบ้าง แค่ไม่ได้ขาดหายกันไปกับก็แฮปปี้แล้วค่ะ
สำหรับทำไมถึงสนใจอยากเป็นศิลปินไอดอล จริงๆหนูชอบเต้น ชอบร้องเพลง และทำกิจกรรมพวกนี้ค่ะ เลยลองออดิชั่นไปหลายที่ที่เปิดรับค่ะ แล้วที่นี่ก็ให้โอกาสหนูค่ะ หนูมีความสุขทุกครั้งที่อยู่บนเวทีแล้วเห็นแฟนๆยิ้มค่ะ ย้อนกลับไปวันที่ประกาศรายชื่อตัวจริงตอนนั้นรู้สึกดีใจ ตื้นตันมากๆจริงๆค่ะ เพราะตอนแรกหนูคิดว่าจะไม่ติดซะแล้ว แต่พอชื่อหนูถูกเรียก หนูก็ตกใจมากๆ แล้วก็ดีใจมากๆ ยิ่งหันไปเห็นแฟนๆที่คอยให้กำลังใจอยู่ มันยิ่งพูดไม่ออกเลยค่ะ รู้สึกขอบคุณทุกคนมากๆจริงๆค่ะ สำหรับการเข้ามาอยู่วง the glass girls รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ได้รับประสบการณ์ที่ดีมากค่ะ ทั้งการเติมเต็มทั้งจากแฟนๆ จากค่าย จากการเรียนรู้ต่างๆ มันทำให้เรารู้ว่าได้เติบโตไปพร้อมๆกัน ซึ่งหนูว่ามันดีมาก
ถ้าให้บอกว่าเรียนแพทย์กับการมาเป็นศิลปินอันไหนยากกว่ากันนั้น หนูรู้สึกว่าทั้งสองอย่างเป็นความท้าทายค่ะ ซึ่งหนูอยากทำให้ดีที่สุดทั้งสองอย่าง หนูจึงต้องแบ่งเวลาให้ดีมากๆ และทุ่มเทกับทั้งสองอย่าง ซึ่งมันเป็นอะไรที่ค่อนข้างยาก แต่หนูก็จะทำให้ได้ค่ะ ได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างด้วย ทั้งการแบ่งเวลา การทำงานกับผู้อื่น ความมีวินัย ความรับผิดชอบ และอื่นๆอีกมากมายค่ะ

ส่วนการแบ่งเวลาทั้ง 2 อย่าง หนูยอมรับเลยว่ายากค่ะ แพทย์คือเรียนทุกวัน จันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เช้าจนเย็น แล้วพอเสาร์-อาทิตย์หนูก็ต้องไปซ้อม หรือบางอาทิตย์ก็ออกงานค่ะ เท่ากับว่า 7 วันของหนูจะตารางเต็มหมดเลย เพื่อนบางคนอาจจะอ่านหนังสือช่วงเสาร์อาทิตย์ แต่หนูไม่มีเวลาตรงนั้น จึงทำให้ทุกวันจันทร์-ศุกร์เรียนเสร็จ หนูต้องรีบกลับมาอ่านหนังสือ ทบทวนบทเรียนให้เสร็จ ให้เรียบร้อยก่อนคนอื่นค่ะ ส่วนเสาร์-อาทิตย์ ถ้ามีช่วงพักซ้อม หรือรอขึ้นเวที หนูก็จะอ่านหนังสือค่ะ คือใช้ทุกๆนาทีให้คุ้มที่สุดจริง จะเหลือเวลาให้มีเวลาส่วนตัวหรือพักผ่อนต่อวันค่อนข้างน้อยและจำกัดค่ะ การทำให้สองอย่างนี้ balance กันจึงค่อนข้างยาก ซึ่งบางครั้งก็หนูรู้สึกว่าฝืนเกินไปจนรู้สึกว่าไม่อยากทำแล้วก็มี แต่ว่าทุกๆครั้งที่การได้เต้นได้ขึ้นเวทีหรือออกงานก็ถือว่าเป็นการพักผ่อนไปในตัวแล้วเห็นแฟนๆ หรือแม้แต่คอมเม้นท์ต่างๆ มันก็ทำให้หนูพลังกลับมาอีกค่ะ หนูมีความสุขมากๆทุกครั้งที่ได้เจอแฟนคลับค่ะ
ไอดอลสำหรับหนู คือคนที่เป็นตัวอย่าง เป็น role model ในเรื่องไหนก็ได้ค่ะ (แต่ต้องเป็นเรื่องที่ดีนะคะ😅) อาจจะเป็นเรื่องการเรียน เรื่องความมุ่งมั่น เรื่องการเต้นร้องเพลง หรืออื่นๆ ไอดอลคือคนที่เป็นแรงบันดาลใจให้หนูอยากทำสิ่งๆนั้นต่อไปค่ะ แม้มันจะเหนื่อยมากแค่ไหนก็ตาม ไอดอลคนนึงของหนูคือ Taylor Swift ค่ะ
ความฝันตั้งแต่เด็กก็คืออยากเป็นหมอ ตั้งแต่แรกเลยค่ะ ส่วนถ้าเป็นลองเรียนสายอื่นไหม อืมมม หนูคิดไม่ออกเลยค่ะ ด้วยความที่อยากเป็นหมอตั้งแต่เด็กมากๆ ก็เลยไม่เคยคิดถึงอย่างอื่นเลยค่ะ แล้วพอได้มาเรียนจริงๆแล้ว รู้สึกว่ามัน Amazing มากๆเลยค่ะ แบบหนูไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าร่างกายมนุษย์เราจะซับซ้อน มากมายขนาดนี้ หนูว่ามันสุดยอดและน่าทึ่งมากๆค่ะ แล้วยิ่งตอนปี 2 ได้เรียนที่ลึกลงไปอีก จนหนูก็คิดว่าร่างกายของคนเรานี่มันขนาดนี้เลยเหรอ นี่มันสุดยอดเกินไปแล้ว ทั้งที่จริงๆแล้วหนูเป็นคนกลัวผีมากๆค่ะแต่พอได้มาเรียนจริงแล้วกับไม่รู้สึกกลัว

สุดท้ายหนูก็ขอเป็นกำลังใจให้กับพี่ๆทุกคนที่กำลังสอบเข้าหรือเตรียมตัวเข้ามหาวิทยาลัยนะคะ และก็ขอฝากติดตามวงของพวกเรา “The Glass Girls” และหนูทางโซเชียล IG: asia.theglassgirls Facebook: Asia The Glass Girls Youtube : Very Zhear และวันที่ 31 ม.ค นี้อย่าลืมมาให้กำลังใจพวกเรา The Glass Girls พบกับ ยูนิตพิเศษ “บราวชูการ์” เป็นครั้งแรก ในงาน Japan EXPO 2020 ด้วยนะคะ



ภาพ : Asia The Glassgirls