ผู้ถือหุ้น ‘ดุสิตธานี’ (DUSIT) ไม่อนุมัติถอดถอน ‘ชนินทธ์ โทณวณิก’ พ้นกรรมการ ชี้ผู้เข้าประชุมส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย

สำนักข่าวบริคอินโฟ – ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2568 ของบริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DUSIT เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2568 มีมติไม่อนุมัติวาระการถอดถอน นายชนินทธ์ โทณวณิก ออกจากตำแหน่งกรรมการบริษัทฯ แม้ว่าจำนวนเสียงของหุ้นที่เห็นด้วยกับการถอดถอนจะมีสัดส่วนสูงถึง 79.61% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด แต่เมื่อพิจารณาจากจำนวนรายของผู้ถือหุ้นที่เข้าร่วมประชุม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ถือหุ้นรายย่อย พบว่ามีถึง 420 ราย หรือคิดเป็น 86.9565% ของจำนวนผู้เข้าประชุมทั้งหมดที่ไม่เห็นด้วยกับวาระดังกล่าว ทำให้มติดังกล่าวไม่ผ่านการอนุมัติ เนื่องจากไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดให้เสียงเห็นด้วยต้องมีจำนวน 3 ใน 4 ของผู้ถือหุ้นที่เข้าประชุมและมีสิทธิออกเสียง

ในวาระการถอดถอน นายชนินทธ์ โทณวณิก นี้ มีผู้ถือหุ้นรวม 42 ราย รวมถึงบริษัท ชนัตถ์และลูก จำกัด ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ บมจ.ดุสิตธานี ที่ลงคะแนนเสียงเห็นด้วยกับการถอดถอน คิดเป็นจำนวน 425,356,690 เสียง หรือ 79.61% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด อย่างไรก็ตาม จำนวนรายของผู้ถือหุ้นที่เข้าร่วมประชุมและมีสิทธิออกเสียง 420 ราย กลับลงมติ “ไม่เห็นด้วย” ทำให้วาระดังกล่าวไม่ได้รับอนุมัติตามเกณฑ์ที่กำหนด

นอกจากนี้ ที่ประชุมผู้ถือหุ้นยังมีมติเลื่อนการพิจารณาในวาระที่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มจำนวนกรรมการ การแต่งตั้งกรรมการใหม่ และการเปลี่ยนแปลงอำนาจกรรมการออกไปเป็นวันที่ 4 ธันวาคม 2568 เวลา 14.00 น. ผ่านระบบประชุมอิเล็กทรอนิกส์ (E-Meeting) เพียงรูปแบบเดียว การเลื่อนวาระนี้มีขึ้นหลังจากที่ผู้ถือหุ้นรายย่อยได้ยื่นหนังสือต่อประธานในที่ประชุม เพื่อแจ้งว่าได้ทำการร้องเรียนไปยังสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า

การร้องเรียนดังกล่าวมีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการกระทำที่อาจเข้าข่ายร่วมกับบุคคลอื่นเพื่อ ครอบงำกิจการ ของบริษัทฯ โดยไม่ทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ของกิจการ (Tender Offer) และอาจเข้าข่ายเป็นการกระทำการรวมธุรกิจที่อาจก่อให้เกิดการผูกขาด หรือการเป็นผู้ประกอบธุรกิจซึ่งมีอำนาจเหนือตลาด ซึ่งต้องได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า ด้วยเหตุนี้ บริษัท ดุสิตธานี จึงระบุว่า ประเด็นดังกล่าวเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความระมัดระวังและพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยทางบริษัทฯ ขอเน้นย้ำว่า การประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งนี้เป็นไปตามกระบวนการประชุมที่ โปร่งใส และเคารพสิทธิของผู้ถือหุ้น และยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าตามกลยุทธ์ธุรกิจเพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อไป