AGE เผยกำไรไตรมาส 2/68 พุ่ง 163% ทุ่มลงทุนธุรกิจ EV เตรียมเปิด 9 โชว์รูมใหม่ภายในปีนี้

สำนักข่าวบริคอินโฟ – บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) (AGE) รายงานผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2568 มีกำไรสุทธิ 93 ล้านบาท เติบโตขึ้น 163% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) โดยได้รับแรงหนุนจากธุรกิจหลักที่ยังคงมีประสิทธิภาพ และการเติบโตของกลุ่มธุรกิจใหม่ โดยเฉพาะธุรกิจตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และธุรกิจโลจิสติกส์ ที่ส่งสัญญาณการเติบโตอย่างชัดเจน

สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนของปี 2568 AGE มีรายได้จากการขายและบริการรวม 7,608 ล้านบาท ลดลง 5.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) และมีกำไรสุทธิ 128.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 147.6% (YoY) โดยมีปริมาณการขายถ่านหินรวม 1.9 ล้านตัน และตั้งเป้าปริมาณการขายทั้งปีไว้ที่ 4 ล้านตัน ขณะที่ผลประกอบการเฉพาะไตรมาส 2/2568 บริษัทมีรายได้ 4,019 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% จากไตรมาสก่อน (QoQ) แต่ลดลง 0.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY)

เมื่อแบ่งตามกลุ่มธุรกิจในไตรมาส 2/2568 พบว่า ธุรกิจถ่านหิน สร้างรายได้ 2,782 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.8% (QoQ) ธุรกิจโลจิสติกส์ มีรายได้ 156 ล้านบาท ลดลง 10.9% (QoQ) โดยบริษัทยังคงมุ่งขยายบริการสู่ลูกค้านอกกลุ่ม เช่น สินค้าเกษตรและอุตสาหกรรม ส่วน ธุรกิจพลังงานยั่งยืน ผ่านการลงทุนใน บมจ.เอเชีย ไบโอแมส (ABM) มีรายได้ 594 ล้านบาท และ ธุรกิจ Low Emission Mobility ผ่าน บริษัท เอจีอี ออโต้ แกลเลอรี่ จำกัด (AAG) ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ EV และไฮบริด มีรายได้อยู่ที่ 478 ล้านบาท

ธุรกิจตัวแทนจำหน่ายรถยนต์นับเป็นธุรกิจใหม่ที่เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดย AAG ได้ร่วมมือกับพันธมิตร 4 แบรนด์รถยนต์ ได้แก่ Zeekr (ซีเคอร์), Omoda & Jaecoo (โอโมดา แอนด์ แจคู), Chery (เชอรี่) และ Mitsubishi motors (มิตซูบิชิ มอเตอร์ส) โดยมีแผนขยายการลงทุนก่อสร้างและปรับปรุงโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการรวม 9 แห่งให้แล้วเสร็จภายในปี 2568 ครอบคลุมพื้นที่สำคัญ เช่น รามอินทรา, พระราม 2, รามคำแหง, บางนา, รังสิต และแจ้งวัฒนะ นอกจากนี้ บริษัทยังมีรายได้จากการปล่อยเช่ารถแท็กซี่ EV จำนวน 50 คัน

นางสาวปณิตา ควรสถาพร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ในปีนี้ บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการออกหุ้นกู้ และไถ่ถอนหุ้นกู้เดิมก่อนกำหนด ซึ่งสะท้อนถึงนโยบายของ AGE ที่จะยกระดับความสามารถในการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการธุรกิจถ่านหินเดิม และเพิ่มการลงทุนในธุรกิจยั่งยืนอย่างปลอดภัย และคาดว่าจะทำให้สัดส่วนรายได้จากธุรกิจยั่งยืน จะอยู่ที่ประมาณ 30-35% ในปีนี้ และตั้งเป้าสัดส่วนรายได้จากธุรกิจยั่งยืนที่ 50% ในปี 2573”