ข่าว
Amity AI Labs คว้าอันดับ 1 ของโลกด้าน Agentic AI วิเคราะห์ข้อมูลหลายขั้นตอน พร้อมใช้งานจริงบนแพลตฟอร์ม EkoAI
สำนักข่าวบริคอินโฟ – Amity AI Labs ซึ่งเป็นฝ่ายวิจัยและพัฒนา AI ของกลุ่มบริษัท Amity (อมิตี้) ประสบความสำเร็จในการพัฒนา Agentic AI (เอเจนติก เอไอ) จนสามารถคว้าอันดับ 1 บนตาราง Data Agent Benchmark for Multi-step Reasoning (DABStep) Leaderboard ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับโลกในการประเมินศักยภาพของ AI agents (เอไอ เอเจนต์) ที่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลที่ซับซ้อนจากสถานการณ์จริงในธุรกิจ ความสำเร็จนี้ได้ถูกนำไปใช้งานจริงแล้วบนแพลตฟอร์ม EkoAI (เอโค่เอไอ) โดยเฉพาะในฟีเจอร์ Data Analyst Agent (เอเจนต์ผู้ช่วยวิเคราะห์ข้อมูล) ซึ่งช่วยให้องค์กรสามารถประมวลผลข้อมูลและตัดสินใจทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ความสำเร็จของ Amity AI Labs แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดดในการนำ Agentic AI มาประยุกต์ใช้ในระดับองค์กร โดย DABStep Leaderboard ที่โฮสต์โดย Hugging Face และพัฒนาโดย Adyen ใช้เพื่อประเมินความสามารถของ AI agent ในการอ่านเอกสารธุรกิจ, วิเคราะห์ชุดข้อมูล, สร้างโค้ด และผลิตข้อมูลเชิงลึกที่นำไปใช้ได้จริง ซึ่งเป็นงานประจำวันของนักวิเคราะห์ข้อมูล โดยเทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จนี้ได้ถูกนำมาใช้ใน EkoAI ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม Agentic AI ระดับองค์กรของกลุ่มบริษัท Amity โดยมี Data Analyst Agent เป็นหนึ่งในห้า Specialized Agents (เอเจนต์เฉพาะทาง) ที่ผสานสถาปัตยกรรมหลายเอเจนต์ (Multi-Agent Architecture) เข้ากับเครื่องมือที่ใช้งานได้จริง
จากรายงาน White Paper (สมุดปกขาว) ล่าสุดของกลุ่มบริษัท Amity เรื่อง “Agentic AI for Multi-Step Data Analysis (เอเจนติก เอไอ สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลแบบหลายขั้นตอน)” ระบุว่าระบบสามารถทำคะแนนความแม่นยำได้สูงถึง 80.56% สำหรับโจทย์ระดับง่าย และ 41.01% สำหรับโจทย์ระดับยาก ซึ่งเป็นคะแนนสูงสุดที่เคยมีมา (ข้อมูล ณ วันที่ 11 กรกฎาคม 2568) นายวชิรวิทย์ โหมดเครือ ผู้อำนวยการฝ่าย AI Labs ของกลุ่มบริษัท Amity กล่าวว่า “เป้าหมายที่แท้จริงของเรามิใช่เพื่อแข่งขันใน Academic Benchmark เท่านั้น แต่เพื่อช่วยงานด้านการวิเคราะห์ข้อมูลที่ซับซ้อน ที่เกิดขึ้นจริงในองค์กร ซึ่งระบบ AI ส่วนใหญ่จะสับสนเมื่อโจทย์มีหลายขั้นตอนหรือรายละเอียดมีความซับซ้อน แต่สถาปัตยกรรมของเราคิดผ่านโจทย์หรือปัญหาได้อย่างเป็นระบบ ได้เหมือนกับนักวิเคราะห์ข้อมูลที่เป็นมนุษย์ และสามารถอธิบายเหตุผลในทุกขั้นตอนการทำงานได้”
สถาปัตยกรรมของกลุ่มบริษัท Amity ได้นำเสนอแนวคิดใหม่ในการแยกกระบวนการวิเคราะห์ที่ซับซ้อนออกเป็น 3 บทบาทเฉพาะทาง ได้แก่ The Planner (ผู้วางแผน) ซึ่งทำหน้าที่วางกลยุทธ์หลักและแยกย่อยคำถามที่ซับซ้อนเป็นขั้นตอนที่ชัดเจน, The Executor (ผู้ลงมือปฏิบัติ) ที่ดำเนินงานด้วยตรรกะหลายขั้นตอนผ่านการคิดวิเคราะห์และลงมือปฏิบัติแบบวนซ้ำ และ The Feedbacker (ผู้ตรวจสอบคุณภาพ) ที่ให้บริการตรวจสอบความถูกต้องด้วยระบบอัตโนมัติและให้คะแนนประสิทธิภาพ โครงสร้างนี้ช่วยให้ระบบมีตรรกะที่ดีขึ้น โปร่งใส สามารถตรวจสอบและแก้ไขข้อผิดพลาดได้ง่าย และยังรองรับข้อกำหนดสำหรับงานในระบบองค์กร เช่น การเข้าถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องผ่านการรักษาความปลอดภัยระดับแถว (Row-Level Security: RLS)
นายทัชพล ไกรสิงขร ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีกลุ่มบริษัท และหัวหน้าฝ่าย AI Labs ของกลุ่มบริษัท Amity กล่าวเสริมว่า “นี่ไม่ใช่เป็นเพียงแค่ผลสำเร็จจากงานวิจัยจากห้องแล็บ แต่ยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่นำไปใช้ได้จริง Data Analyst Agent ที่พัฒนาโดยทีมของเรานั้นถูกนำไปใช้งานใน EkoAI และช่วยให้องค์กรสามารถตอบคำถามที่ซับซ้อนในระดับที่เคยต้องใช้ระยะเวลาหลายวัน เรากำลังนำงานวิจัยที่ล้ำสมัยไปใส่ไว้ในมือลูกค้าโดยตรง”
EkoAI ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม Agentic AI สำหรับองค์กรของกลุ่มบริษัท Amity ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสื่อสารกับ AI agents ด้วยภาษาธรรมชาติ และสร้างข้อมูลเชิงลึกโดยไม่ต้องเขียนโค้ดเอง ฟีเจอร์หลักของระบบประกอบด้วย Natural Language Querying (NLQ) สำหรับสืบค้นข้อมูลด้วยภาษาอังกฤษหรือไทย, แดชบอร์ดแบบเรียลไทม์ที่แสดงผลลัพธ์ในรูปแบบกราฟและตาราง, การโต้ตอบด้วยเสียง, ระบบ Feedback Loop ที่ปรับปรุงคำตอบเมื่อเวลาผ่านไป, เครื่องมือการทำงานร่วมกันที่ผสานรวมกับ Microsoft Teams และ Eko Chat รวมถึงการออกแบบที่รองรับการใช้งานบนมือถือ นอกจาก Data Analyst Agent แล้ว EkoAI ยังมีเอเจนต์เฉพาะทางอื่น ๆ เช่น Research Analyst Agent (เอเจนต์นักวิเคราะห์วิจัย), Document Analyst Agent (เอเจนต์นักวิเคราะห์เอกสาร), Secretary Agent (เอเจนต์เลขา) และ Creative Agent (เอเจนต์นักคิดสร้างสรรค์) ซึ่งสามารถปรับแต่งให้เหมาะกับงานองค์กรที่แตกต่างกัน
ในส่วนของการนำไปใช้งานจริง กรณีศึกษาหนึ่งคือการติดตั้ง Data Analyst Agent ของ EkoAI ในร้านค้ากว่า 3,000 สาขาของหนึ่งในผู้ค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในไทย ระบบของกลุ่มบริษัท Amity สามารถประมวลผลข้อความมากกว่า 1,000 ข้อความต่อวัน ด้วยเวลาตอบสนอง 5 วินาทีถึง 1 นาที ทำให้ผู้จัดการร้านสามารถตัดสินใจโดยอิงจากข้อมูลได้อย่างอิสระทั้งภาษาไทยและอังกฤษ ฟีเจอร์ To-Do List (TDL) ที่สร้างโดย AI ยังสร้างรายงานสรุปประจำวันที่ปรับแต่งให้เหมาะกับร้านแต่ละสาขา พร้อมไฮไลต์ความผิดปกติและสิ่งที่ต้องทำเร่งด่วนในแต่ละวัน การนำโซลูชันนี้ไปใช้งานจริงเป็นการพิสูจน์ว่าการวิจัย AI ขั้นสูงสามารถส่งมอบคุณค่าทางธุรกิจได้อย่างเป็นรูปธรรมและสามารถขยายผลได้ในวงกว้าง
