จีนคาด ยานยนต์บินได้ eVTOL แสนคัน อาจถูกใช้เป็น ‘แท็กซี่-พาหนะส่วนตัว’ ภายในปี 2030

สำนักข่าวซินหัว พันธมิตรของสำนักข่าวบริคอินโฟ อ้างอิงจากรายงานของพันธมิตรเศรษฐกิจการบินระดับต่ำของจีน เผยแพร่เมื่อวันพุธที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สำนักข่าวซินหัว พันธมิตรของสำนักข่าวบริคอินโฟ รายงานว่า คาดการณ์ว่าจีนอาจมียานพาหนะขึ้นบิน-ลงจอดแนวดิ่งพลังงานไฟฟ้า หรือ eVTOL จำนวน 1 แสนคัน ถูกนำมาใช้งานในชีวิตประจำวัน ทั้งในฐานะยานพาหนะส่วนตัวและแท็กซี่บินได้ (air taxi) ภายในปี 2030 โดยการใช้งานในเชิงพาณิชย์จำนวนมาก จะทำให้ต้นทุนการผลิตยานพาหนะ eVTOL ลดลง และเข้าถึงสาธารณชนได้มากขึ้น

พันธมิตรฯ คาดการณ์ว่า ภายใน 2-3 ปีข้างหน้า เมืองใหญ่ต่างๆ ในจีนจะเริ่มสร้างเครือข่ายการขนส่งทางอากาศและจุดบริการภาคพื้นดิน เพื่อรองรับการใช้งานยานพาหนะการบินระดับต่ำได้อย่างสมบูรณ์ นอกจากนี้ เทคโนโลยีเกิดใหม่อย่างปัญญาประดิษฐ์ (AI) ปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับคอมพิวเตอร์ และเครือข่ายบริการโครงสร้างพื้นฐานถนนดิจิทัล จะมีส่วนช่วยในการใช้งานยานพาหนะทางอากาศแบบไร้คนขับ

รายงานยังระบุถึงบทบาทที่เพิ่มมากขึ้นของโดรนในด้านต่างๆ ทั้งโลจิสติกส์ การเกษตร การกู้ภัยฉุกเฉิน การบริหารจัดการเมือง และการท่องเที่ยว โดยคาดว่าในอนาคตจะมีโดรนอยู่ “ทุกหนแห่ง” ทั้งนี้ พันธมิตรเศรษฐกิจการบินระดับต่ำของจีน ซึ่งริเริ่มโดยบริษัทกว่า 100 แห่ง และก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา มุ่งเน้นการพัฒนาน่านฟ้าการบินระดับต่ำ และวางแผนอนาคตของอุตสาหกรรมเศรษฐกิจการบินระดับต่ำของประเทศ

โดยสรุป รายงานจากพันธมิตรเศรษฐกิจการบินระดับต่ำของจีน คาดการณ์ว่า ภายในปี 2030 จีนจะมี eVTOL ถึง 1 แสนคัน ซึ่งการผลิตจำนวนมากจะทำให้ราคาถูกลงและเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ในขณะเดียวกัน เทคโนโลยีต่างๆ จะมีส่วนช่วยในการพัฒนายานยนต์ไร้คนขับ และโดรนจะเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในหลากหลายด้าน