Siam Paragon Bangkok International Fashion Week 2024 จัดยิ่งใหญ่แสดงศักยภาพของประเทศไทยในอุตสาหกรรมแฟชั่นโลก 2–6 ตุลาคม 2567 ณ สยามพารากอน

สยามพารากอน ตอกย้ำความเป็น ‘World Class Fashion Destination’ ศูนย์กลางแฟชั่น ระดับโลก พร้อมด้วย สยามเซ็นเตอร์ และ สยามดิสคัฟเวอรี่ ในฐานะผู้นำอันดับหนึ่งของเดสติเนชั่นในประเทศไทย ที่ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมและ Ecosystem ของแฟชั่นไทยมาอย่างต่อเนื่อง ผนึกกำลังประกาศศักยภาพประเทศไทย ในฐานะเมืองแห่งแฟชั่นที่น่าจับตาของภูมิภาคเอเชีย กับที่สุดแห่งปรากฏการณ์แฟชั่นและเป็นสุดยอดแพลตฟอร์ม แห่งโอกาส จัดงาน “Siam Paragon Bangkok International Fashion Week 2024” หรือ BIFW2024 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-6 ตุลาคม 2567 นี้ ณ พาร์ค พารากอน สยามพารากอน ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Envision the Future” ร่วมขับเคลื่อนแฟชั่นไทยสู่มิติแห่งอนาคต

ตื่นตากับไฮไลท์สำคัญของ BIFW2024 โดย สยามพารากอน รวมพลัง ‘Co-Creation’ กับเหล่าดีไซเนอร์ไทย ชั้นนำและดีไซเนอร์ระดับแนวหน้าแห่งเอเชีย พร้อมด้วยเหล่าพันธมิตรใน Ecosystem จากหลากหลายอุตสาหกรรม นำเสนอ 15 แฟชั่นโชว์อวดพลังสร้างสรรค์ ด้านสยามเซ็นเตอร์เปิดเวทีให้ดีไซเนอร์รุ่นใหม่และนิสิตนักศึกษาด้านแฟชั่นทั่วประเทศร่วมนำเสนอฝีมือและความคิดสร้างสรรค์ สยามดิสคัฟเวอรี่ชวนสนุกกับกิจกรรมแฟชั่นเอ็กซ์เพอริเม้นท์จากแบรนด์แฟชั่นชั้นนำ และพลาดไม่ได้กับปรากฏการณ์สุดพิเศษตอกย้ำการเป็นโกลบอลเดสติเนชั่นระดับ ผู้นำ สยามพิวรรธน์ จัดสุดยอดงานเสวนาด้านแฟชั่นครั้งสำคัญ ในงาน WWD x SIAM PIWAT GLOBAL FASHION SPOTLIGHT ครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่รวบรวมบุคคลสำคัญ ผู้ทรงอิทธิพลในวงการแฟชั่นและลักซ์ซูรี่ แบรนด์ของโลกมาให้ข้อมูลและแชร์เทรนด์อินไซด์การเติบโตของอุตสาหกรรมแฟชั่นและโอกาสของประเทศไทย ในเวทีโลก

คุณธณพร ตันติยานนท์ ผู้บริหารหน่วยธุรกิจ สยามพารากอน กล่าวว่า “Siam Paragon International Fashion Week ถือเป็นความภาคภูมิใจของสยามพารากอน ในการเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมแฟชั่นไทย มาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 17 ซึ่ง BIFW คือแพลตฟอร์มแห่งโอกาสอย่างแท้จริง เป็นรันเวย์แฟชั่นอันดับหนึ่งของประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ส่งเสริมและผลักดันให้ระบบนิเวศน์ของอุตสาหกรรมแฟชั่นไทย ซึ่งนับเป็นอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ได้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ต่อเนื่อง และยั่งยืน เป็นแพลตฟอร์มให้ดีไซเนอร์ไทยได้แสดงผลงานอย่างต่อเนื่อง และยืนหนึ่งในการส่งเสริมและเปิดโอกาสให้นักออกแบบคลื่นลูกใหม่ได้มีโอกาสสร้างสรรค์และจัดแสดงผลงาน นอกจากนี้ BIFW ยังสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ และยังก่อให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมแฟชั่นอีกมากมาย และยังสร้าง Impact Value ให้กับทั้งแบรนด์ และประเทศไทยในภาพรวม ผ่านทั้งสื่อชั้นนำและโซเชียลมีเดียต่างๆมากมาย นำไปสู่การปลูกฝังและสร้างให้เกิดความสนใจในแฟชั่นไปยังกลุ่มเป้าหมายในหมู่มาก อันเป็นปัจจัยที่สำคัญในการสร้างความสำเร็จของแบรนด์ในปัจจุบัน นับเป็นการร่วมประกาศศักยภาพและสร้างอัตลักษณ์ของประเทศไทยให้เป็นเมืองแห่งแฟชั่นที่น่าจับตาในสายตาโลก”