ข่าว
BTS เผย “ผู้โดยสาร” ดึง “เบรคฉุกเฉิน” รอเพื่อนขึ้นรถไฟฟ้า ทำรถไฟฟ้าล่าช้า!

ภายหลังจากช่วงเวลา 06.48 น. ที่ผ่านมา ทวิตเตอร์ ของรถไฟฟ้า BTS มีการทวิตข้อความ ระบุว่า การเดินรถให้บริการตามปกติ แต่สิ่งที่ทำให้สังคมออนไลน์พูดถึงเพิ่มเติมคือ “วันก่อนผู้โดยสารดึงคันโยกฉุกเฉิน (PER) เพียงเพราะต้องการให้ขบวนรถหยุดรอเพื่อน เจ้าหน้าที่ต้องรีเซ็ตขบวนรถใหม่ และทำผู้โดยสารคนอื่นๆล่าช้า”
06.45 น. ขบวนรถให้บริการทุกสถานี ทั้งในสายสีลม และสายสุขุมวิทครับ
????วันก่อนผู้โดยสารดึงคันโยกฉุกเฉิน (PER) เพียงเพราะต้องการให้ขบวนรถหยุดรอเพื่อน เจ้าหน้าที่ต้องรีเซ็ตขบวนรถใหม่ และทำผู้โดยสารคนอื่นๆล่าช้า
อยู่ในขบวนพบเหตุเป็นลม เจ็บป่วยต้องการความช่วยเหลือ ???? กดปุ่มกระดิ่ง— BTS SkyTrain (@BTS_SkyTrain) 1 กรกฎาคม 2562
ทีมข่าว Brickinfo สอบถามไปยัง บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการ รถไฟฟ้า BTS นายสุมิตร ศรีสันติธรรม ผู้อำนวยการใหญ่สายปฏิบัติการ เปิดเผยว่า สำหรับเหตุผู้โดยสารดึงคันโยกฉุกเฉิน (PER – Passenger Emergency Release หรือ พีอีอาร์) เกิดขึ้นในช่วงประมาณเที่ยงวัน ของ วันที่ 30 มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยทางบีทีเอสจะมีการบันทึกประวัติของผู้ที่ดึง คันโยกฉุกเฉิน โดยไม่มีเหตุอันควร เพื่อใช้ในการตรวจสอบว่ามีการทำซ้ำอีกหรือไม่
เมื่อมีการดึง “คันโยกฉุกเฉิน” โดยไม่มีเหตุจำเป็นทำให้เจ้าหน้าที่ต้องทำการ รีเซ็ตขบวนรถใหม่ เพื่อให้รถไฟฟ้าสามารถเคลื่อนตัวไปแต่ทั้งระบบ ส่วนผู้โดยสารที่ทำการดึงคันโยกดังกล่าว มีสิทธิ์ถูกปรับ เนื่องจากดึงคันโยกฉุกเฉินโดยไม่มีเหตุอันควร
ทั้งนี้ ระบบการเดินรถของบีทีเอส ยึดหลัก fail – safe หากตรวจพบความผิดปกติใดก็ตามในการเดินรถ ไม่ว่าจะเป็น ขบวนรถ ระบบอาณัติสัญญาณ หรือราง คอมพิวเตอร์ควบคุมการเดินรถ จะสั่งให้ขบวนรถหยุดไว้ก่อนเสมอ นี่คือที่มาของเสียงประกาศจัดการจราจรในขบวนรถ
ผู้อำนวยการใหญ่สายปฏิบัติการ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทุกครั้งที่ดึง คันโยกฉุกเฉิน จะกระทบต่อการเดินรถ เพราะเจ้าหน้าที่ควบคุมรถ จะต้องใช้เวลารีเซ็ตขบวนรถทุกครั้ง ขบวนที่ตามหลังมาก็ต้องจอดคอยต่อๆกันไป เพื่อรักษาระยะห่างให้ปลอดภัยเสมอ แต่เกิดความล่าช้าสะสมได้ กระทบผู้โดยสารท่านอื่นๆ จึงมีข้อกำหนดให้มีโทษปรับหากใช้โดยไม่จำเป็น
สำหรับ คันโยกฉุกเฉิน PER มีไว้ใช้เปิดประตูขบวนรถ เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินในขณะที่รถจอดสนิท ติดตั้งบริเวณด้านข้างประตูทุกประตู และทุกขบวนรถ พร้อมติดสติ้กเกอร์ที่มีคำแนะนำการใช้งานคาดไว้ทุกชิ้น
ตัวอย่าง การใช้ PER เช่น ขบวนรถไฟฟ้าจอดสนิทที่สถานี ท่านอยู่ในขบวนรถ แต่พบผู้โดยสารท่านอื่นขาตกในช่องว่างระหว่างชานชาลา ก็สามารถดึง PER เพื่อไม่ให้รถเคลื่อนที่ได้
กรณีที่พบได้บ่อยกว่ากรณีอื่น คือ มีผู้เป็นลมในขบวนรถ ผู้โดยสารจึงดึง PER ซึ่งทำให้ขบวนรถต้องหยุดนานกว่าปกติที่สถานีถัดไปโดยไม่จำเป็น หากพบผู้เป็นลม หรือป่วย หรือต้องการความช่วยเหลือขณะที่อยู่ในขบวนรถ โปรดกดปุ่มกระดิ่ง แจ้งเจ้าหน้าที่ได้ทันที เจ้าหน้าที่จะประสานสถานีถัดไปให้เตรียมการช่วยเหลือทันที โดยไม่ต้องเสียเวลาจอดนาน เพื่อรีเซ็ตขบวนรถ สำหรับปุ่มกระดิ่ง อยู่บริเวณเดียวกับ PER ในทุกตู้โดยสาร