บทความ
ความหมายล้ำ ๆ ของ “Googly Eyes” จาก Everything Everywhere All at Once

เมื่อคืนก่อน ผมมีโอกาสได้ร่วม Watchalong Party ดูหนังกับชาวด้อม Vtuber บ้านหนึ่ง แล้วหนังที่ได้นั่งดูกันก็คือ “Everything Everywhere All at Once” (ซือเจ๊ทะลุมัลติเวิร์ส) หนังตัวตึงดีกรีรางวัลออสการ์ของค่าย A24 เมื่อดูจบ ทุกคนก็หันมาตั้งวงพูดคุยเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ทันที โดยหนึ่งในหัวข้อที่น่าสนใจมาก ๆ จากหนังเรื่องนี้ก็คือ “Googly Eyes” ลูกตาพลาสติกที่ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็ “โคตรจะโง่” แต่มันกลับเป็นไอเทมที่โคตรจะสำคัญและมีความหมายมาก ๆ ในเรื่องราวของการต่อสู้ข้ามจักรวาลเรื่องนี้
ตั้งแต่สมัยเด็ก ๆ ก็น่าจะมีอยู่หลายคนคุ้นหน้าคุ้นตากับเจ้าลูกตาดุ๊กดิ๊ก ที่มักถูกแปะอยู่กับของเล่นตุ๊กตาหรือมีขายเป็นสติ๊กเกอร์ที่แปะกับอะไรก็ดูโง่ดูติ๊งต๊องไปซะหมด แต่รู้หรือไม่เห็นดูโง่ ๆ แบบนี้ มันกลับมีความหมายมากกว่าของประดับที่แปะกับอะไรก็ดูโง่ แถมยังกลายมาเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญที่สุดในภาพยนตร์เรื่อง Everything Everywhere All at Once

สำหรับ “ลูกตาดุ๊กดิ๊ก” หรือ “Googly Eyes” นั้น จะเป็นถ้วยพลาสติกใสใบเล็ก ๆ ที่บรรจุแผ่นพลาสติกสีดำที่เล็กกว่านิดหน่อย แล้วซีลทับด้วยพลาสติกสีขาว ทำให้ดูคล้ายดวงตา ที่มาที่ไปของมันมาจากการ์ตูนแก๊กสั้น ๆ “Barney Google and Snuffy Smith” ที่ตีพิมพ์ในช่วงต้นของศตวรรษที่ 20
โดยตัวละครชื่อว่า “Barney” ที่มีตาโปนโตเป็นคาแรคเตอร์เฉพาะตัวคาแรคเตอร์ ซึ่งก็ได้แรงบันดาลใจมาจากเพลง “Barney Google (with the Goo-Goo-Googly Eyes)” ของปี 1923 อีกที ต่อมาในปี 1970 ลูกตาโปนโตนี่ก็ถูกนำมาใช้ในดีไซน์ของเล่นตุ๊กตา “Weepul” ที่มีฟีเจอร์พิเศษสามารถกลอกตาดุ๊กดิ๊กได้แบบที่เราคุ้นเคยกันดี และมีคนทำเป็นสติ๊กเกอร์ขายให้ไปแปะกับอะไร ๆ อีกด้วย

นั่นทำให้ในปี 2000 มีสองศิลปินนิรนามชาวเดนมาร์ก สร้างกระแสการนำสติ๊กเกอร์ลูกตาดุ๊กดิ๊กไปติดตามสิ่งของต่าง ๆ โดยเป็นการนำโปรเจกต์ “Ça Vous Regarde” (มันอยู่ในความสนใจของคุณ) ของศิลปินชาวฝรั่งเศส “Do Benracassa” ในปี 1980 มาสานต่อ
จากนั้นมันก็ได้เข้ามาอยู่ในสื่อกระแสหลัก จากช่วงตลกสั้นของรายการ “Saturday Night Live” เมื่อปี 2018 ที่พิธีกร “Christopher Walken” รับบทเป็นชาวสวนที่กลัวพืช เลยเอาเจ้าตาดุ๊กดิ๊กพวกนี้มาติด เพื่อให้ดูน่ากลัวน้อยลง… และไอ้ลูกตาโง่ ๆ นี่ก็กลับมากลายเป็นสิ่งที่อยู่ในความสนใจมากขึ้น จากการมาของ Everything Everywhere All at Once ในปี 2022
แต่ถึงจะเห็นว่าเป็นแค่ลูกตาโง่ ๆ แปะกับอะไรก็ดูโง่ไปซะหมด มันกลับมีความหมายแฝงเอาไว้ค่อนข้างน่าสนใจเลยทีเดียว ซึ่งความหมายหลัก ๆ ของมันก็คือ การที่ได้สนุกสนานกับชีวิต และการอยู่กับช่วงเวลาปัจจุบัน รวมไปถึง ความสุข, พลังชีวิต และความหมายของชีวิต
โดยใน Everything Everywhere All at Once ตัวหนังก็ได้เสริมความหมายเบื้องหลังลูกตาสุดติ๊งต๊องนี่เข้าไปอีก นัยแรกนั้นมันเป็นตัวแทนของ “อัตถิภาวนิยม” (Existentialism) ว่าด้วยการที่มนุษย์ที่มองหาบางสิ่งเมื่อสร้างความหมายในตัวเอง สอดคล้องกับปรัชญาชีวิตของ “Waymond” สามีของ “Evelyn Wang” ที่ว่า…
“แม้การมีอยู่ของเราไร้ความหมาย แต่เราก็ยังมองหาความสุขจากมันได้”
นอกจากนี้ยังหมายถึงการสร้างความหมายให้ชีวิต ด้วยการยอมรับว่าโดยธรรมชาตินั้นเราไม่มีความหมาย แล้วทุกสิ่งและทุกช่วงเวลานั้น ก็จะมีความหมายอย่างเท่าเทียมกัน พร้อมยังคอยย้ำเตือนถึงคนดูมองหาความอบอุ่น, ความใจดี และความหมายในตัวเอง แม้ชีวิตจะไร้ความหมายก็ตาม
เท่านั้นยังไม่พอ ในเนื้อเรื่อง ตลอดทั้งเรื่องใน 2 บทแรก “Evelyn” จะแสดงความรำคาญกับเจ้าลูกตาที่ “Waymond” ชอบไปติดตรงนู้นทีตรงนี้ที
แต่พอมาช่วงบทสุดท้ายที่ Evelyn มีพลังถึงขีดสุด เธอได้นำ “ลูกตาดุ๊กดิ๊ก” ดวงหนึ่งมาแปะไว้ที่หน้าผากแทนดวงตาที่สาม นอกจากการที่จะสื่อถึงการปลุกพลังและตื่นรู้แล้ว มันยังหมายถึงการที่เธอยอมโอบรับปรัชญาว่าด้วยการมีตัวตนและความหมายของการมีตัวตน ที่ได้จาก Waymond ในท้ายที่สุด ซึ่งสื่อมันออกมาผ่านการนำ “ตาดุ๊กดิ๊ก” ที่เธอรำคาญมันมาตลอด มาเป็นดวงตาที่สามของเธอ
การมีอยู่ของ “ลูกตาดุ๊กดิ๊ก” นั้น กลายมาเป็นข้อพิสูจน์ไปแล้วว่า “แม้สิ่ง ๆ นั้นจะไร้ความหมาย แต่เราก็ยังหาความสุขและความหมายจากมันได้อยู่เสมอ” เหมือน “ลูกตาดุ๊กดิ๊ก” ที่ดูเผิน ๆ แต่ตาของเล่นที่แปะกับอะไรก็ดูตลก มันก็สามารถมีความหมายในเชิงปรัชญาในตัวของมันเองได้
“ถ้าวันไหนคุณรู้สึกว่าการมีอยู่ของตัวเองไร้ความหมาย ให้มองไปที่ลูกตาโง่ ๆ นั่น… ถ้ามันมีความหมายในตัวของมันเองได้ คุณก็เช่นกัน”
ติดตามบทความและ Content ต่าง ๆ เกี่ยวกับ Pop Culture ได้ที่ https://www.facebook.com/GrizzlyTrivialSpace